6 เทคนิคดูแลรถบรรทุกให้ดี ใช้งานได้ยาวๆ
สำหรับผู้ใช้งานรถบรรทุก การดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษารถบรรทุกในระยะยาวอีกด้วย แต่หลายคนอาจกำลังประสบปัญหารถบรรทุกคู่ใจเริ่มทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควร หรือกำลังมองหาวิธีประหยัดค่าซ่อมแซมที่พุ่งสูงขึ้นทุกปี บทความนี้ เงินให้ใจจะเผย 6 เทคนิคสุดเจ๋งในการดูแลรถบรรทุกที่จะช่วยให้รถบรรทุกของคุณอยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานได้ยาวนาน!
1. เช็กน้ำมันเครื่องบ่อยๆ
ใครว่าการเช็กน้ำมันเครื่องเป็นเรื่องน่าเบื่อ? จริงๆ แล้วมันคือกุญแจสำคัญในการยืดอายุรถบรรทุกของคุณ! ให้ลองทำตามวิธีเช็กน้ำมันเครื่องต่อไปนี้
- เช็กระดับน้ำมันเครื่องทุก 5,000 กม. หรือทุกเดือน
- สังเกตสีและความหนืดของน้ำมัน หากเป็นสีดำคล้ำหรือมีกลิ่นไหม้ ให้รีบเปลี่ยนทันที
- อย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ควรใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงที่เหมาะกับรถบรรทุกของคุณ อาจแพงกว่านิดหน่อย แต่ช่วยยืดอายุรถบรรทุกได้มากกว่าที่คิด
2. ดูแลระบบเบรกอย่างใกล้ชิด
ระบบเบรกคือชีวิตจิตใจของรถบรรทุก เพราะถ้าเบรกพัง เท่ากับว่าเราจะไม่สามารถใช้รถบรรทุกได้ นอกจากนี้ ระบบเบรกที่ไม่สมบูรณ์ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง โดยเฉพาะเมื่อต้องบรรทุกของหนักหรือขับขี่บนเส้นทางที่มีความลาดชัน ดังนั้น การดูแลระบบเบรกจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด มาดูวิธีดูแลกันแบบจริงจัง
- ตรวจสอบผ้าเบรกทุก 20,000 กม. หรือเมื่อได้ยินเสียงดังเวลาเบรก
- เช็กระดับน้ำมันเบรกทุกเดือน ถ้าลดลงเร็วผิดปกติ ให้รีบตรวจสอบการรั่วซึม
- ทดสอบประสิทธิภาพเบรกบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล
แนะนำว่าควรฝึกใช้เบรกเครื่องยนต์ (Engine Brake) เพื่อลดการสึกหรอของผ้าเบรกปกติ โดยเฉพาะเมื่อลงเขาหรือบรรทุกของหนัก
3. หมั่นตรวจสอบยาง
ยางคือจุดสัมผัสเดียวระหว่างรถบรรทุกกับถนน การดูแลยางที่ดีไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย
- ตรวจสอบลมยางทุกสัปดาห์ ยางที่แข็งหรืออ่อนเกินไปจะสึกหรอเร็ว
- สลับยางทุก 10,000-15,000 กม. เพื่อให้ยางสึกอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบร่องยางเป็นประจำ หากความลึกน้อยกว่า 1.6 มม. ให้เปลี่ยนทันที
อาจจะลองใช้เกจวัดความลึกร่องยางแบบดิจิทัล จะช่วยให้วัดได้แม่นยำกว่าการคาดเดาด้วยตาเปล่า
4. ดูแลแบตเตอรี่เพื่อป้องกันปัญหารถสตาร์ทไม่ติด
แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญในการสตาร์ทรถ การดูแลที่ดีจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ทุกเดือน เติมเมื่อจำเป็น
- ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ด้วยแปรงลวดและน้ำผสมเบกกิ้งโซดา
- หากไม่ได้ใช้รถนาน ให้ชาร์จแบตเตอรี่ทุก 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ควรมีการติดตั้งสวิตช์ตัดแบตเตอรี่ (Battery Cut-off Switch) เพื่อป้องกันไฟรั่วเมื่อจอดรถนานๆ
5. ไม่ละเลยระบบหล่อเย็น เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด
ระบบหล่อเย็นที่ทำงานได้ดีจะช่วยยืดอายุรถบรรทุกได้อย่างมาก มาดูวิธีดูแลกัน
- ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นทุกสัปดาห์ เติมเมื่อจำเป็น
- เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นตามกำหนดเวลาที่ระบุในคู่มือ (โดยทั่วไปทุก 2-3 ปี)
- ตรวจสอบการรั่วซึมของท่อน้ำและหม้อน้ำเป็นประจำ
อย่าลืมใช้น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพสูงที่มีสารป้องกันสนิมและตะกรัน จะช่วยยืดอายุระบบหล่อเย็นได้มากขึ้น
6. อย่าลืมระบบกรองอากาศ
ระบบกรองอากาศที่สะอาดจะช่วยให้เครื่องยนต์หายใจได้สะดวก ประหยัดน้ำมัน และมีกำลังเต็มที่
- ตรวจสอบไส้กรองอากาศทุก 10,000 กม. หรือบ่อยกว่านั้นหากขับในพื้นที่ฝุ่นมาก
- ทำความสะอาดไส้กรองด้วยลมเป่าจากด้านใน หากสกปรกมากให้เปลี่ยนใหม่
- ตรวจสอบท่อและข้อต่อต่างๆ ของระบบกรองอากาศว่าไม่มีการรั่วซึม
คุณอาจจะลองใช้ไส้กรองอากาศแบบล้างทำความสะอาดได้ (Reusable Air Filter) จะช่วยประหยัดในระยะยาวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สรุป
การดูแลรถบรรทุกไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! ด้วย 6 เทคนิคที่เราแนะนำมานี้ คุณจะสามารถยืดอายุการใช้งานรถบรรทุกของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าซ่อมในระยะยาว แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย เพราะการดูแลรักษาที่สม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ทำตามตารางการบำรุงรักษารถบรรทุกที่ระบุในคู่มือ และอย่าละเลยสัญญาณเตือนต่างๆ ที่รถส่งมา หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบนำเข้าศูนย์บริการโดยเร็ว
ที่มา https://www.xn--12cfk2dfr1